วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553
Trading Company อาวุธทางปัญญาของ “สิงค์โปร์ และ ญี่ปุ่น”
พูดถึง Trading Company หลายๆคนอาจไม่คุ้นเคย แต่ถ้าผมจะบอกว่า Trading Company เหล่านี้เป็นกลไก การเชื่อมโยงระหว่างโลกของวัตถุดิบ กับ โลกของการผลิต ..คุณคงพอจะเป็นภาพว่า “ทุกสิ่งที่อยู่รอบๆตัวท่าน รวมทั้งสิ่งที่ท่านบริโภคอยู่ ล้วนผ่านมือของ Trading Company เหล่านี้มาแล้ว
เป็นเวลาหลายสิบปี ที่สิงค์โปร์และฮ่องกง พัฒนาฝีมือในการ Trade ซึ่งเดิมเริ่มโดยชาว “ซามูไร” ..อะจ๊าก!! ไฮ!!...หัวใจของประเทศไร้ทรัพยากร ก็คือ “การค้า” ซึ่งขับเคลื่อนโดย Trader เป็นหลัก --- “ความรวยของประเทศจึงไม่ได้อยู่ที่การมีทรัพยากรมาก (อย่างแอฟริกา) แต่ความมั่งคั่ง มันขึ้นกับว่า คุณเข้าใจวิธีการค้ามากแค่ไหนต่างหาก ที่นำคุณประเทศสู่ความมั่งคั่ง”
อธิบายซะยืดยาว “ตกลง Trading Company” มันทำอะไรล่ะ …. ฮึ ฮึ
ในประเทศไทย การ Trading เริ่มจากการที่ Trading Company ต่างชาติเข้ามาตั้งตัวแทนการซื้อ (เช่น ซื้อน้ำตาล , ซื้อยาง ซื้อวัตถุดิบต่างๆไปยังประเทศของตัวเองที่ไม่มีทรัพยากร จากนั้นก็ผลิตของแพงมาขายเมืองไทย..อ้าว!! อย่างนี้เราก็ขาดทุนอะดิ “ใช่”!!)
กลไกของ Trading Company แบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ ก็คือ 1. Physical (คือ คนที่ทำหน้าที่ handle ตัว Commodity จริงๆ เช่น ซื้อน้ำตาลจากนั้นก็ ทำการใส่ลงเรือ ส่งไปให้ลูกค้าที่สั่ง) 2. ในส่วนของ Futures (คือ ทำหน้าที่ป้องกันความเสี่ยงให้กับ Trading Company ) อย่างที่เรารู้ๆกันว่า Trading Company จะกำไร “ตลอดกาล” นั่นก็คือ การกินกำไรจากส่วนต่างหรือ Premium ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย --กำไร “เด้งที่สอง” ก็คือ ความสามารถในการใช้เครื่องมือ ป้องกันความเสี่ยงอย่าง Futures (เอามาใช้เพื่อ Hedge physical นั่นเอง)..ถ้า Futures เก่งก็รวย -- แต่ถ้าเก่งและรวย แต่ซ่า “ก็เป็น Lehman Brother ไงครับ…อิ อิ”
ในส่วนของ Futures มักจะทำโดยฝรั่ง โดยที่ เมื่อโรงงานน้ำตาลสั่งขายสินค้า Trading Company ก็จะซื้อ Futures เพื่อ Hedge ป้องกันความเสี่ยงของราคาขึ้นลง …ในเมืองไทยคนที่ทำในส่วนของ Futures เป็นมีแบบชนิด “นับคนได้”(น้อยมาก)
“แล้วหนุ่มหยง มันอยู่ตรงไหนของภาพล่ะ!!” มันเท่ห์มาก ..เอาล่ะผมจะเล่าให้ฟัง ---คุณคงเคยได้ยินชื่อ Goldman Sachs เทพแห่ง Investment Banker (พวก IB เหล่านี้ บ้ากว่า Trading Company ไปอีก “ขุมของความบ้า” เพราะอย่าง Goldman เข้าไป Trade Futures โดยที่ตัวเอง ไม่มี Physical ด้วยซ้ำ (พูดง่ายๆคือ มัน Trade กระดาษ ที่เราเรียกว่า “Pure Paper” นี่แหละ) …Goldman เข้าไป Trade Commodity ทุกประเภท ตั้งแต่ น้ำมัน ยัน กากน้ำตาล ---- และหนุ่มหยง นี่แหละก็คือ “คู่แข่งกับ Goldman” ไง..เท่ห์ไหม ----- ความแตกต่างคือ “หนุ่มหยง” port เล็กกว่า IB เหล่านั้นมาก (แต่ยังก็เท่ห์อยู่ดี จริงไหม!!)
อย่างในประเทศไทย บริษัทที่ handle ในส่วนของ Futures มีไม่กี่บริษัท หนึ่งในนั้นก็คือ Plantheon (กลจักรขับเคลื่อน Raw Material ของกลุ่ม TCC ของเสี่ยเจริญนี่เอง!!) …ว่างๆผมจะเชิญ คุณ กัลย์ (ผู้อำนวยการหนุ่มไฟแรงแห่งค่าย Plantheon มานั่งคุยกัน) รับรองต้องได้ความรู้กันอย่างเมามันส์แน่นอน!!
กลับมาที่หนุ่มหยง “เราจะมา วัดรอยเท้าของ Trader เซียนๆ อย่างสิงค์โปร์ ดูว่า Trader Commodity อิสระ(แบบ Pure Paper อย่างหยง) ที่อาศัยเครื่องมือ Technical และความรู้ จากประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดา (ไม่ธรรมดา เพราะล้มจนเละ!! จนรู้..ว่างั้นเถอะ!!)
สิ่งที่ “Monkey Trade” กำลังจะสร้าง คือ Port จำลองที่ ทำการซื้อขาย …วัดกันไปเลย ว่าในอีก 3 – 6 เดือนข้างหน้า ..ผลงานของเราจะเป็นอย่างไร ---“ให้รอติดตามกันครับ!!”
(ตอนนี้ “แพ้ท” กับ “หยง” กำลังเลือก Commodity ที่น่าสนใจมาเป็น Model ให้ศึกษา สลับกับเกร็ดความรู้ในด้านการ Trade ที่จะแทรกให้กับผู้อ่านเรื่อยๆ ครับ…อ๋อ! แล้วเราก็มี คุณ กัลย์ เป็นที่ปรึกษาและนักเขียนรับเชิญ ซึ่งอาจสละเวลาเป็นระยะๆเข้ามา Comment “ขอบคุณมากครับ คุณกัลย์”)
(ปล.) ใครมี Facebook อย่าลืมคลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกับ Monkey Trade นะครับที่
http://www.facebook.com/pages/Monkey...?v=wall&ref=ts
(ชุนนุมหนุ่มนัก Trade Commodity แบบแรงๆ เบาๆ ...อิ อิ อิ)
หรือ เจอกันที่ blog อ่าฮ้า ++ ที่ http://monkeytrade.blogspot.com
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ชื่อย่อ และ ภาพใหญ่ ของราคา Commodity
Port จำลองนำ้ตาล (คลิ๊กดูได้ที่นี่ครับ) ตอนนี้เพิ่ง Trade ไป 1 ไม้จึงยังไม่มี History(Target 60%)
(Link) Port ที่กำลังจะดูเรื่อง "ทอง"
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remember?)
ขอบคุณมากครับทัมหั้ยผมได้ความรู้เพิ่มและอยากได้ข้อคิดดีๆอย่างตลอดถ้าเป็นไปได้ พอดีผมพึ่งจัดตั้งบริษัท เทรดดิ้ง ครับ จะติดตามข้อคิดดีๆ ขอบคุณครับ
ตอบลบ