ปูทาง Monkey Trade ..มองภาพแล้วเดินไปด้วยกัน!!(ทำเงินจากน้ำตาล)

เวลากล่าวถึง Commodities สิ่งแรกที่ นักลงทุน ที่บ้านเรานึกถึงคือ "ทอง" แต่ในทัศนะของผม ทอง นั้นเปรียบเหมือน Currency มากกว่า Commodities ครับ และการใช้ Futures เพื่อ Hedge สินค้าจริงสำหรับ ทอง นั้น ผมคิดว่ามีน้อยมาก. (ไม่รู้จะถึง 1% ของ turnover แต่ละวันหรือเปล่า) ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจเท่าไร นักลงทุน สมัยนี้เก่ง ใช้ ทอง เป็น จุดพัก หรือ Repository ของทุน ในภาวะที่ตลาดทุนไม่ดี.

เรื่่อง ทอง นั้นมีความน่าสนใจมากครับ. แต่ผมจะขอยกเรื่องนี้ไว้สำหรับโอกาสหน้านะ (หืม! ทำให้อยาก แล้วก็เปลี่ยนเรื่องจากไป) ถ้าผมยังไม่คุยถึง ทวงกับแพท เลยนะครับ. ไ่ม่ต้องทวงกับผม :-D

จุดเริ่มของ Commodity Futures จริงๆ มาจาก "ข้าว" ครับ. ในยุคก่อน ซามูไรจะได้รับผลตอบแทนเป็น ข้าว ซึ่งในบางปี ผลผลิตข้าวไม่ดีบ้าง น้อยบ้าง จึงเกิดไอเดียว่าควรจะมีการทำสัญญาล่วงหน้าเอาไว้ เพื่อรักษา ผลตอบแทน ที่เขาควรได้ให้คงที่ ย้ำ! ผลตอบแทนนะครับ ไม่ใช่ราคาที่จะทำให้คงที่. และ Commodity Futures ก็ได้เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นครับ.

การประกันความเสี่ยงโดยใช้ Futures จึงเกิดขึ้น และเพิ่มความหลากหลายมากขึ้นต่อมา.

Commodities ในหมวดอาหาร เป็นหนึ่งในหมวดหลักที่มีการซื้อขาย อาทิ หมวด Grain and Oilseed ในตลาด Chicago Board of Trade, หมวด Soft and Fiber ในตลาด New York Board of Trade และแม้กระทั่ง หมวด เนื้อสัตว์ ในตลาด Chicago Mercantile Exchange และนี่เป็นเพียง "ส่วนหนึ่ง" ของผลิตภัณฑ์ในตลาด Commodity Futures เท่านั้น ผมไม่แปลกใจที่ เกษตรกร ในต่างประเทศ ร่ำรวย. เพราะเขามีเครื่องมือ "ประกันความเสี่ยง" ที่มีประสิทธิภาพมาก. ต่างจาก เกษตรกรบ้านเรา ที่หว่านเมล็ดไปแล้ว ต้องมานั่งลุ้นว่าฝนจะตกหรือเปล่า

Commodity ที่ผมต้องการกล่าวถึงในวันนี้คือ น้ำตาล ครับ. ทุกวันนี้บทบาทในตลาดโลกของ น้ำตาล ไม่ใช่เป็นเพียง ส่วนประกอบ ในธุรกิจอาหาร/เครื่องดื่มเท่านั้นแล้ว. แต่ กากน้ำตาล หรือ Molasses นั้น เป็น วัตถุดิบสำคัญ ในการผลิต Ethanol alcohol หนึ่งในพลังงงานทดแทนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายด้วย.

เมื่อ Perception ที่นักลงทุน มีต่อ หุ้น หรือ ผลิตภัณฑ์ นั้นๆ เปลี่ยนไป. พฤติกรรมราคาก็จะเปลี่ยนไปด้วย.

น้ำตาลจึงไม่เป็นเพียง อาหารคน อีกต่อไป แต่เป็น อาหารรถ ด้วย ในรูปแบบเดียวกับ ข้าวโพด และ มันสำปะหลัง



เมื่อวิเคราะห์ chart น้ำตาล ด้วยเครื่องมือทาง Technical Analysis เราสังเกตได้ว่าตั้งแต่ปี 1999 ราคาน้ำตาล ยกตัวสูงขึ้นตลอด. และในภาพใหญ่ ราคาน้ำตาลจะเพิ่มขึ้นอีกมากครับ.

จากจุดนี้ โลกเราคงจะหวานน้อยลง “เป็นระยะๆ” หลักการป้องกันความเสี่ยงหรือทำกำไรจากความไม่แน่นอน มันคือ หัวใจของการ Hedging หรือ Hedge Fund สะท้านโลกที่ มันขนเงินเป็นกระสอบๆ ออกไปนั่งยิ้มในขณะที่ชาวนา ชาวไร่ นั่งตาปลิบๆ ..เอาเป็นว่า เรากำลังปูทางข้อมูลให้ท่านผู้อ่าน เพื่อเดินทางไปกับเรา!!)
------( หรือ โลกจะหวานน้อยลง!!)---“ Hence, the world less sweeten.”
^Yong^