"ฟรีด้อมเทรดเดอร์"

"ฟรีด้อมเทรดเดอร์"
"การเดินทางของ Commodity Trader กาแฟสักแก้ว และก็กางเกงใน -- สำหรับโกยเงิน และสร้างความนิ่ง"

คุยกับเราใน Facebook (คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกัน สำหรับคนที่มี Facebook)

คุยกับเราใน Facebook (คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกัน สำหรับคนที่มี Facebook)
เป็นเพื่อนกัน (click เลย)... "เข้าสู่โลกของ Monkey Trade กันคร้าบ!!"

วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กลไก การซื้อขายของ ธุรกิจน้ำตาล (ซับซ้อน!!)



แค่คิดก็ซับซ้อนแล้ว ระบบการซื้อขาย Sugar Industry …การซื้อขายที่ Trading Company ทุกรายต้องจัดการ มันก็คือ ความยุ่งยากในเชิง Logistic ผนวกกับการที่ต้องเข้าใจโลกของการป้องกันความเสี่ยง การ Hedge น้ำตาล ด้วย Futures

“ธุรกิจน้ำตาลของเมืองไทยเป็นแบบ Seller Market” คือผู้ซื้อต้องง้อผู้ขายนะ (ต้องไปขอให้เขาขาย ..งง ไหมครับ)
ภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. Raw Sugar (น้ำตาลดิบ) และ 2. White Sugar (น้ำตาลขาว)
น้ำตาลดิบซื้อขายกันที่ตลาด New York (คือ คนที่ซื้อน้ำตาลดิบ ก็จะซื้อไปฟอก หรือไป Refine แล้วค่อยขายย่อยต่อไป

อย่างประเทศญี่ปุ่น อย่างที่เรารู้ๆกันว่า ชอบเพิ่มมูลค่า ก็จะซื้อน้ำตาลดิบ “ซึ่งกำหนดเป็น J spex” (แต่บางครั้ง ถ้าใครดูๆ ตลาดน้ำตาลอาจ งง ..เฮ้ย!! ทำไมน้ำตาลดิบ มันแพงกว่าขาว --เฮอะๆ ไม่มีอะรที่เป็นไปไม่ได้ เพราะ โรง Refine ยังไงก็ต้องเดินเครื่อง --อย่างที่บอกว่าตลาดขึ้นแบบ Demand & Supply เป็นหลัก คือ ช่วงไหนคนทำอะไรมากๆ ราคามันก็จะตก (ดังนั้น การอ่านกลไกราคานี่ มันส์มาก!!)

จริงๆ ผมเล่นหุ้น ก็นึกว่า “การเล่นหุ้นที่ซับซ้อนแล้ว แต่ถ้าเทียบกับ Commodity คุณกลายเป็นเด็กไปเลย” เพราะอย่างตลาดหุ้น เราเก็งราคาขึ้นลงก็ปวดหัวแล้ว แต่ตลาด Commodity ทั้งราคาขึ้นลง และไหนจะต้องดู Supply ด้วย เพราะผลผลิตทางการเกษตรมันเป็น Supply ที่มัน “ไม่แน่นอน” --- อย่างบริษัทคุณซื้อหุ้นคุณรู้ว่า ปริมาณหุ้นที่คุณซื้อขายมีเท่าไหร่ แต่ตลาด Commodity คุณต้องอิง “พระเจ้าด้วยนะ !!” ยากไหม !! (ดังนั้น Trader เก่งๆ จะเฝ้าดูอากาศ ดูทุกสิ่งทุกอย่าง ที่อิงต่อ Supply )

ในส่วนของการซื้อขาย Futures สมัยก่อน มีแต่ “ผู้ซื้อกับผู้ใช้เป็นหลัก” แต่เดี๋ยวนี้มี “Investor + Speculator” กระโดดเข้ามาแจมด้วย ..(คุณ หยง เราก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมแจมด้วย…เท่ห์ไม่เบาเลยนะเนี่ย) แต่ประเด็นมันคือ การเข้ามาของ “นักลงทุน” มันทำให้ตลาดผันผวน (แต่ในอีกมุม ไม่มีนักลงทุนเลย ..ใครจะมาซื้อ Futures คุณถูกไหม!! ดังนั้น นักลงทุนก็เป็นเสมือนหัวใจของตลาดเช่นกัน ..หลักการคือคุณหนีมันไม่ได้ “ก็ต้องเข้าใจระบบ!!”

ปี 2008 ต้นปี น้ำมันกระโดดเตะ 140 เหรียญ/บาร์เรล …ปลายปีแตะ 30 คุณคิดดู มันหมายความว่าอะไร …นี่แหละที่เป็นสาเหตให้ผมกระโดด เข้ามาศึกษา Commodity
“ถ้าคุณหนีมันไม่ได้ หลักการก็คือ คุณต้องเข้าใจมัน!!”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น


ภาพใหญ่ของ Commodity ตัวต่างๆ

Port จำลอง ( "Trader ลึกลับ หยง" & "Investor หมัดเมา Pat")

Port จำลอง ( "Trader ลึกลับ หยง" & "Investor หมัดเมา Pat")
นี่เป็น Port ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อทดลอง ความสามารถในการ Trade ทำกำไรจากตลาด Commodity (น้ำตาล No.11) ซึ่งแน่นอนเป็นการวัด Performance ในระยะยาว ซึ่งเราจะ Update มาใน Link ให้ดูเรื่อยๆครับ

ย้อนรอยตลาดหุ้นไทย 20 ปี "แห่ง Roller Coaster!!"