คุณหยง นอกจากจะเป็น Trader อิสระ และก็วิทยากรรับเชิญ แล้ว ..เขายังเป็น Fund Manager ย่อยๆ (สำหรับคนที่สนิทเท่านั้นนะครับ!!) …ด้วยบุคลิคที่ สบายๆ ขาสั้น ความคิดลึกล้ำ บวกกับปฏิบัติธรรม เพื่อฝึกจิต ให้ออกจากความโลภ (แน่นอน การเป็น Trader คุณต้อง Handle กับ Greed (ความโลภ)ให้ได้ ..ไม่งั้นคุณมีโอกาส เสียเงินทั้งหมดที่คุณสร้างมาทั้งชีวิต กับการมั่นใจไร้สติเพียงครั้งเดียวก็ได้!!)
คุณ หยง จะอยู่บ้านบ่อยๆ สบายๆ บางทีก็ชุดขาว นั่งสมาธิ จนเพื่อนบ้านหลงนึกว่า “เพี้ยน!!” พอคุณหยงเล่าจุดนี้ให้ผมฟัง มันทำผม ขำ เกือบขากรรไกรค้าง!! อิ อิ อิ (นี่แหละครับมนุษย์ หากเราแคร์ คนอื่นว่ามองเราอย่างไร มันคงเป็นโลกที่ไร้สาระสิ้นดี … ทำที่ตัวเองมองว่า ทำแล้วสุข “แต่อย่าไปเบียดเบียนใคร” แค่นี้ผมว่า มันเยี่ยมพอแล้ว!!)
สิ่งที่ทำให้ผมทึ่งในตัวคุณหยงก็คือ “มีผู้ใหญ่ที่สนิท เอาเงินก้อนโต มาให้ คุณ หยง บริหาร…แต่คุณ หยงปฏิเสธ แล้วบอกว่า “มาดูฝีมือผมก่อน เอาเงินก้อนเล็กๆมาให้ผม ผมจะบริหารให้ดู …ถ้าโอเค ค่อยเอาเงินก้อนใหญ่นั้น มาให้ผมบริหาร!!”
ผมถามคุณหยงว่า “ทำไมคุณปฏิเสธเงินก้อนโตล่ะ” คุณหยง : “ผมไม่ได้ปฏิเสธ เพียงแต่ผม ต้องการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า ..และ (ตัวผมเองด้วย)” …..เอ๊ะ !! (ตัวผมเองด้วย!!) ผมไม่เข้าใจที่คุณพูด คุณหยง!!
คุณหยง : จริงๆแล้ว ผมบริหาร Port ด้วยตัวเอง ถึงตอนนี้ Port ผมไม่ได้ใหญ่มาก ดังนั้น การ Trade และการตัด Cut Loss มันอยู่ในความสามารถของผม …แต่ลองคิดดู ถ้าวันนี้ ผมต้องบริหาร Port ร้อยล้าน การ Trade แต่ละครั้งและการ Cut Loss มันจะให้ความรู้สึกที่ต่างกันมากๆ !! (ดังนั้น เงินก้อนใหญ่ ถ้าผมไม่พร้อม มันจะทำให้การ Trade ของผมผิดพลาด) --นี่แหละ “การมองค่าเงิน จึงมีผลต่อการตัดสินใจในการลงทุน ซึ่งมันหมายถึง กำไรและขาดทุนโดยตรง!!”
ดังนั้น หนึ่งล้านของคุณหยง กับ หนึ่งล้านของผู้ใหญ่ผู้นั้น มันมีค่าต่างกัน
สรุปเลยว่า คุณจะต้องพร้อมและเข้าใจตัวเองก่อนที่คุณจะก้าวต่อไป “ไม่งั้น ความโลภ และ หายนะ มันรอคุณอยู่” --รวยเร็วๆมันอาจหมายถึง “เสียหมดตัวในเวลาต่อมา” ….สิ่งที่ยั่งยืนกว่า คือ ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า “คุณพร้อมหรือยัง!!ต่างหากครับ…”
(รู้เขารู้เขา รบร้อย ชนะร้อย)
อย่าเพิ่งรีบ "ทึ่ง" ครับ เพราะ "อึ้ง" กับ "หวาดเสียว" กำลังจะตามมา ฮ่าๆๆ ผมยิ่งมีโอกาสได้ศึกษาเรื่องการลงทุนมากขึ้น ยิ่งเริ่มเข้าใจว่าองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในการลงทุนคือ "ทัศนคติและจิตวิทยา" หรือ Psychology นั่นเอง. ส่วน money management และ technical นั้น ถือว่าเป็นส่วนน้อย. สำหรับผม "การลงทุน" ไม่ใช่เพียงรูปแบบการ -หาเงิน- เท่านั้น แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของการดำเนินชีวิต. และผมก็นำ "แบบแผนชีวิต" นี่แหละครับ มาเป็นปัจจัยมาในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ในชีวิต.
ตอบลบผมไม่ได้เริ่มต้นชีวิต trader ในฐานะผู้ประสบความสำเร็จ แต่ในฐานะ "ผู้ล้มเหลว" และผมก็ต้องขอบคุณการล้มในครั้งนั้น ที่เป็นเครื่องเตือนใจ เตือนสติ เราตลอด ว่าตลาดทุน (ไม่ว่าจะหุ้น หรือ commodities/FX ) เป็นโลกที่โหดร้าย ขาดความปราณี ผู้ชนะจะเลือก "วิสามัญ" ผู้แพ้ทุกครั้งที่มีโอกาส และถ้าเกิดพลาด ก็อาจถูก "วิสามัญ" เอาได้ง่ายๆ เหมือนกัน ในวันนี้ "การแพ้" ในอดีตนั้น คือ ครู ที่สอนให้เราไม่ประมาท. ผมไม่คิดว่าตัวเองเป็น trader ที่เก่ง แต่อย่างใด ผมเพียงพยายามอยู่ในตลาดทุน "โดยไม่ประมาท" เท่านั้นครับ.
เก่งครับ ผมยังมีความโลภติดระบบเทรดอยู่เสมอ
ตอบลบน่าแปลกที่เวลาแนะนำคนอื่น หุ้นขึ้น ถูกเกือบหมด แต่พอเงินตัวเอง
กลับทำไม่ได้ คงเป็นเพราะผม"เร่ง"ความรวยเกินความรู้และเวลาที่ควร
ปล.Fx โหดร้ายจริงๆ ผมยังไม่ชนะมันได้เลย และสิ่งที่ผิดก็ทำผิดอยู่อย่างนั้น สงสัยผมต้องเข้าทางธรรมะช่วยบ้างเสียแล้ว
หนึ่งล้านบาท ของแต่ละคนมันมีค่าต่างกัน... เห็นด้วยกับคำนี้มากๆครับ
ตอบลบต้นทุนชีวิตของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ความเป็นมาของชีวิตก็ต่างกัน
บางคนก็มีฝ่าเท้าของครอบครัวคอยค้ำหลังช่วยเหลืออยู่ แต่บางคนคือพลาดไม่ได้ เพราะถ้าพลาดก็คือจบ เริ่มต้นใหม่... ใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้น
สุดท้ายก็ต้องหันกลับมาบริหารตัวเราเอง เลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับตัวเรา
รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งบ่พ่าย
+1
ตอบลบสุดยอดครับ
ตอบลบ