วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553
ทองทะลุ Fibo 161.8% จะไปถึงไหนเนี่ย!! (Fibo ภาคทองคำ)
เผยโฉมหน้า Thomas Kaplan เศรษฐีหนุ่มผู้คลั่ง"ทอง"
ตอนนี้ทองวิ่งเอาวิ่งเอา จนเข้าเรดาห์การจับตาของ Monkey Trade อีกครั้ง ...นี่เป็นบทความภาคต่อจากความงดงามของ Fibonacci ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่ศาสตร์หมอดูอะไร เพียงแต่ไอ้สัดส่วนทางคณิตศาสตร์ตัวนี้มันได้ไขความลับ เกี่ยวกับสัดส่วนต่างๆ ที่มันเหมาะเจาะกับ หลายสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา รวมทั้งตัวของมนุษย์เองด้วย ...(เอ๋อ!! คนเขียนก็ งง ..เอาเป็นว่าช่างมันเถอะครับ ที่มามันลึกลับ แต่วิธีใช้ Fibonacci มันไม่ลึกลับ พวกเรา Monkey Trade เลยชอบเอามาลากหา Target ของราคาแบบ ขำขำ "ไม่คิดมาก")
เผอิญว่างๆ เลยไปหยิบ Bloomberg Businessweek ขึ้นมาอ่านบทความเกี่ยวกับ Billionaire คนนึง ชื่อ Thomas Kaplan (อายุ 47 ปี "หล่อแล้วรวยโคตร") สิ่งที่ Kaplan ทำนั้น น่าสนใจมาก คือ เขา Bullish ใน ทองมากๆ ถึงกับเอา Asset ของเขา เข้า Bet ในทองอย่างสุดๆ
Kaplan ไม่ใช่แค่ซื้อทองแบบเราๆท่านๆ แต่เขาไปซื้อเหมืองทอง (นี่หนาเศรษฐีมันคิด มันทำอะไร มันก็ Advance เลย จินตนาการของมนุษย์ปกติ นี่แหละที่เขาบอก ถ้าไม่บ้า "คุณไม่รวย!!" อิ อิ)
เขาลงทุนในบริษัท Canadian "Gabriel Resources ที่มี Gold Reserved ใหญ่ที่สุดในยุโรป" ประเมินมูลค่าทั้งหมด 10 ล้าน ounces ซึ่งมีค่าเท่ากับ 12 Billion (ในราคาปัจจุบัน ..แต่ถ้าทองขึ้นไปเรื่อยๆ เขาคงรวย มากกก... ก๊าก ๆ ๆ)
สิ่งที่น่าสนใจคือ Kaplan ไม่ใช่เศรษฐีคนเดียวที่บ้าทอง ยังมี John Paulson อีกคน...เป็น Hedge Fund Manager ชื่อดังผู้ที่สร้างตัวจากการ Bet Against Sub-prime "ช่วงนั้น Paulson ใช้เงินใน Hedge Fund เกือบทั้งหมดที่เขาบริหาร เก็งว่า จะต้องเกิด Sub-prime Crash "-- และนั่นก็ทำให้เขารวยสุดๆ ..ณ วันนี้ Asset ที่เขา Bet ครั้งใหญ่ว่ามันจะต้องขึ้น ก็คือ "ทอง"
เล่าไปไกลถึง 2 หน่อ หล่อ ล้ำ เศรษฐีชื่อก้องโลกทั้งสองคนผู้คลั่งในทอง ...กลับมาที่ Technical ของเรากันดีกว่าว่า Fibonacci มันพยายามบอกอะไรเรา
มันเริ่มจากการนับ Elliot Wave ก่อนว่า "คุณมองว่าทองอยู่ใน Wave ใด" จากในกราฟอาจจะสุดโต่งไปสักนิดที่ให้ช่วงนี้เป็น Wave 3 แต่ถ้ามันใช่ Wave 3 จริงๆ -- Fibonacci กำลังบอกเราว่ามันทะลุสัดส่วนค่า 161.8% ไปแล้ว --"จุดหมายต่อไปคือ ค่าสัดส่วน Fibonacci ที่ 261.8%" ทอง 1,600 บ้าไปแล้ว !! (จริงหรือ)
เอาเป็นว่า ดูสองตาแต่ ไว้หูเอาไว้บ้าง ...นี่เป็นการดูสัดส่วนทางคณิตศาสตร์ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่เกิดก็ได้ ..ขอย้ำว่าไม่มีเครื่องมือทาง Technical ใดที่สามารถทำนายอนาคตได้ -- เพียงแต่ Fibonacci เป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับการเพิ่มขึ้นในสัดส่วนของธรรมชาติ ซึ่งมนุษย์รวมทั้งการตัดสินใจในสิ่งต่างๆ ย่อมถูกกำหนดโดยธรรมชาติ !!
ในภาพใหญ่ทองขึ้นมาแรงมากๆ ก็เพิ่ง 5 ปีที่ผ่านมานี้เอง สาเหตุใหญ่ๆก็มาจาก มนุษย์ขาดความเชื่อมั่นในเงินกระดาษ (แบงค์กงเต๊ก นั่นแหละ!! ) จึงหันเหเข้าหา Asset ที่จับต้องได้ ซึ่งทองก็เป็นหนึ่งในนั้น ...จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทองจะขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่มนุษย์ยังรู้สึกไม่เชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ
คำถามในใจหลายๆคน คงอยากรู้ว่า แล้วเมื่อไหร่ทองคำจะถึง "ยอดดอย" แล้วพุ่งกลับลงมา (อย่างแรง!!)..เท่าที่ดูอาจจะไม่ใช่ในระยะเวลาอันใกล้นี้ --- แต่อย่าประมาทล่ะครับ
ให้จำคำของ Buffet ไว้ว่า "เมื่อทุกคนกล้าในสิ่งใดมากถึงขีดสุด นั่นแหละเป็นช่วงเวลาที่คุณจะต้องกลัวสุดขีด" (เป็นไงบ้าง ล่ะครับ อ่านบทความนี้แล้ว คุณจะ งง ว่า "ตกลงจะให้กูซื้อทองไหมเนื่ย!!" ..คำตอบมันอยู่ตรงกราฟและข้อมูลที่ผมจัดให้อยู่แล้ว "แต่ท้ายสุดตัวคุณเอง คือผู้ตัดสินใจ!!"
อาฮ่า !! รู้สึกเท่ห์ไหมครับ เพื่อนๆ อิ อิ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ชื่อย่อ และ ภาพใหญ่ ของราคา Commodity
Port จำลองนำ้ตาล (คลิ๊กดูได้ที่นี่ครับ) ตอนนี้เพิ่ง Trade ไป 1 ไม้จึงยังไม่มี History(Target 60%)
(Link) Port ที่กำลังจะดูเรื่อง "ทอง"
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remember?)
กวน ไม่มึน ฮา..+มีคุณภาพ เหมือนเดิม ขอบคุณครับ
ตอบลบเทห่ครับแต่กลัวอย่างแรงที่จะซื้อ gold futures กลัวว่ามันสูงแล้ว แต่ๆๆ ตาม contrarian theory ของคุณ pawawit แล้ว ในใจผมก็บอกถ้ากำลังกลัวนั้นเป็นสัญญานที่บ่งบอกให้รีบซื้อถูกมั้ยครับ? ยังไงก็ตาม ฟมเคยคิดว่าทองมีราคาเพราะคนเราให้ value มันถูกมั้ยครับ ? แต่หากในอนาคตคนเราไม่ให้ value มันเหมือนเช่นเดิมจะทำอย่างไร เพราะอย่างที่คุณเคยบอกผมว่า price is just and illusion ถ้าเราให้ value กับ commodities ที่มีประโยช์จริงๆในอนาคตอย่าง น้ำตาลจะ make sense กว่าไหม คือผมคิดแปลกๆและยังไม่ค่อยเข้าใจในตัวเอง เขียนไป งงไป
ตอบลบอย่าไป "Crazy กับสิ่งที่คนอื่นบ้ากัน" ผมมองสิ่งที่เรามีแล้วเกิดความสุข เช่น บ้าน รถ ...จากนั้นเงินที่เหลือก็ Diversify การลงทุนไปใน Asset ต่างๆ (ถ้ามอง Trend ใหญ่ออก เช่น รู้ว่าตอนนี้บาทแข็งขึ้นเรื่อยๆ เงินอ่อน เราก็วิ่งหา Asset ที่เราซื้อได้ บ้านที่ซื้อได้ก็มีไท้กี่อย่าง ..อันนี้ต้องเลือกเอาเองครับ) "ถ้าเราไม่ตื่นตามคนอื่น ผมว่าไม่มีอะไรต้องรีบเร่ง!!"
ตอบลบ